Blog

การยกระดับคุณภาพเสียงในการผลิตสื่อวิดีโอในงานมหาวิทยาลัยโดยใช้ฟีเจอร์ Reduce Noise ในโปรแกรม CapCut เวอร์ชั่นคอมพิวเตอร์

ขั้นตอนที่ 1 เปิดโปรแกรม CapCut บน PC CapCut เวอร์ชัน PC เป็นโปรแกรมตัดต่อวิดีโอแบบใช้งานฟรี ที่มีฟีเจอร์จัดการเสียงด้วย AI ซึ่งสะดวกและรวดเร็ว เปิดโปรแกรม CapCut จาก Shortcut หรือ Start Menuรอโหลดหน้าโปรแกรมจนเข้าสู่หน้าหลัก (หน้าแรกจะมีคำว่า “New Project”)


ขั้นตอนที่ 2 สร้างโปรเจกต์ใหม่ (New Project) โปรเจกต์คือพื้นที่สำหรับตัดต่อวิดีโอในแต่ละงานคลิกปุ่ม “+ New Project”จะเข้าสู่หน้า Timeline สำหรับตัดต่อ (หน้าหลักของโปรเจกต์)

ขั้นตอนที่ 3 นำเข้าวิดีโอที่ต้องการตัดต่อ นำไฟล์วิดีโอเข้ามาในโปรเจกต์ โดยคลิกปุ่ม “Import” ที่มุมซ้ายบนของหน้าจอ ในบางกรณีไฟล์วิดีโออาจมีเสียงรบกวนติดมาด้วย ซึ่งสามารถแก้ไข และปรับแต่งเสียงได้และเลือกไฟล์วิดีโอจากเครื่องหรือ Drag & Drop ไฟล์วิดีโอลงในช่อง Media ได้เลยจากนั้นลากวิดีโอไปวางใน Timeline ด้านล่าง


ขั้นตอนที่ 4 ตรวจสอบว่าในคลิป มีเสียงReduce Noise จะทำงานเฉพาะกับไฟล์ที่มีเสียงเท่านั้นสังเกตดูว่าใน Timeline มีคลื่นเสียง(Waveform) ใต้คลิปวิดีโอหรือไม่กด Play ฟังดูเบื้องต้นว่าเสียงรบกวนอยู่ตรงไหนบ้าง เช่น เสียงลม เสียงจอแจ ฯลฯ

ขั้นตอนที่ 5 เลือกคลิปวิดีโอใน Timeline จำเป็นต้องเลือกคลิปก่อนจึงจะเห็นเมนูเสียงคลิก 1 ครั้งที่คลิปวิดีโอบน Timelineคลิปจะถูก Highlight (มีกรอบสีขาวแสดงว่าเลือกอยู่)


ขั้นตอนที่ 6 เปิดแถบ "Audio" ด้านขวาหลังเลือกคลิปแล้ว แถบเครื่องมือด้านขวาจะเปลี่ยนตามมองที่แถบขวา (หรือบนสุด ขึ้นอยู่กับเวอร์ชัน) แล้วคลิกเมนู“Audio”ถ้าไม่เห็นเมนูนี้ ให้เลื่อนดูเมนูต่าง ๆ จนเจอ



ขั้นตอนที่ 7 เปิดใช้งาน Reduce Noise ฟีเจอร์นี้ใช้ AI ลดเสียงรบกวนพื้นหลังอัตโนมัติหาเมนูที่ชื่อว่า “Reduce Noise”คลิกเปิดให้เป็นสีฟ้า หรือกด Toggle Switch จาก “Off” → “On”หลังเปิดแล้ว โปรแกรมจะประมวลผลเสียงทันที (อาจใช้เวลา 1–15 วินาที ขึ้นกับความยาวคลิป)


ขั้นตอนที่ 8 ฟังตัวอย่างเสียงหลังลด Noise ต้องตรวจสอบว่าเสียงที่ได้หลังใช้ฟีเจอร์ฟังชัดหรือเปล่ากด Play ตรง Timeline แล้วฟังคลิปเปรียบเทียบกับเสียงก่อนเปิด Reduce Noise ว่าดีขึ้นแค่ไหนสังเกตว่าเสียงพูดยังชัดหรือไม่ ถ้าเสียงพูดดูเบา ให้ไปขั้นตอนถัดไป


ขั้นตอนที่ 9 ใช้ร่วมกับฟีเจอร์อื่น (ถ้าจำเป็น)บางครั้ง Reduce Noise อย่างเดียวไม่พอ เสียงพูดอาจเบาลง เราจึงใช้ควบคู่กับฟีเจอร์เหล่านี้

Enhance Voice ช่วยเพิ่มความคมชัดของเสียงพูดเปิดได้ จากเมนูเดียวกับ Reduce Noise Normalize Loudness ช่วยทำให้เสียงทุกช่วงมีระดับความดังใกล้เคียงกันป้องกันเสียงเบาบ้างดังบ้าง

Isolate Voice แยกเสียงพูดให้ชัดเจน (แต่เสียงพื้นหลังจะหายไปมาก)เหมาะกับคลิปพูดอย่างเดียว (ไม่ควรใช้ถ้ามีเสียงดนตรีหรือเสียงบรรยากาศ)


ขั้นตอนที่ 10 Export คลิปออกจากโปรเจกต์ เมื่อแก้เสียงจนพอใจแล้ว ต้องบันทึกวิดีโอออกมาเป็นไฟล์คลิกปุ่ม “Export” ด้านขวาบนของโปรแกรมตั้งชื่อไฟล์, โฟลเดอร์ที่บันทึก, ความละเอียด, Frame Rate ตามต้องการกด “Export” อีกครั้งเพื่อเริ่มเรนเดอร์


ขั้นตอนที่ 11 ทดสอบเปิดไฟล์ที่ Export แล้ว เพื่อดูว่าเสียงยังดีหลังเรนเดอร์ไหม เปิดไฟล์ด้วย Video Player (เช่น VLC, Windows Media Player, MPC-HC)

หมายเหตุ ฟีเจอร์ทำงานด้วย AI ไม่สามารถปรับระดับ Reduce Noise ได้แบบแมนนวล

บทความนี้มีประโยชน์หรือไม่? (3)
Share
Share Facbook Share Twitter
 

e-Profile RMUTL

เว็บไซต์สำหรับแสดงโปรไฟล์ ผลงาน และข้อมูลวิชาการของบุคลากร

มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา