Blog

เริ่มต้น ตัดต่อเสียงด้วยโปรแกรม Pro Tools

Pro Tools เป็นโปรแกรมสำหรับงาน Digital Audio Workstation (DAW) ใช้ในการบันทึกเสียง ตัดต่อ มิกซ์ และมาสเตอร์เสียง นิยมใช้ในงานเพลง วิทยุ โทรทัศน์ และภาพยนตร์
การใช้งานโปรแกรม Pro Tools สำหรับงานตัดต่อเสียงเบื้องต้น
เปิด Pro Tools → File New
ตั้งค่า Session Name : (ชื่อโปรเจ็คงานที่ทำ เช่น Dolby Atmos Music Temp) , เลือกพื้นที่การบันทึกไฟล์ที่ Local Storage Storage , ทำการตั้งค่า Sample Rate : 48 kHz , Bit Depth : 24‑bit , File Type : BWF (.WAV), I/O Settings : Last Used , เลือก Interleaved , เลือก Create From Template : Templates Dolby Atmos Music Temp 250717 (หรือ Templates ที่ได้ทำการสร้างไว้)
กด Create (โปรแกรมจะสร้างโฟลเดอร์ย่อยให้อัตโนมัติ)
จะสร้างพื้นที่ในการทำงาน
เลือก File → Import → Audio
เลือกไฟล์เสียงที่ต้องการนำเข้า (ในกรณีนี้ยกตัวอย่างการเลือกหลายไฟล์พร้อมกัน) ไฟล์เสียงที่เลือกจะมาอยู่ในช่อง Clips in Current File อัตโนมัติ
ทำการเพิ่มเสียงเข้าไปที่ Clips to Import
ความหมายของ Add -> คือ การเพิ่มเสียงทีละ Track แต่ไม่ได้ Copy flie เสียงเข้ามาอยู่ในโปรเจ็คของ Pro tools , Add All -> คือการเพิ่มเสียงทีละหลายๆ Track แต่ไม่ได้ Copy flie เสียงเข้ามาอยู่ในโปรเจ็คของ Pro tools , Copy -> คือ การเพิ่มเสียงทีละ Track และ Copy flie เสียงเข้ามาอยู่ในโปรเจ็คของ Pro tools , Copy All -> คือ การเพิ่มเสียงทีละหลายๆ Track และ Copy flie เสียงเข้ามาอยู่ในโปรเจ็คของ Pro tools
ข้อแตกต่างระหว่าง Add กับ Copy หากเราเลือก Add เวลาย้ายไฟล์ไปเปิดที่เครื่องอื่น ไฟล์ Audio ที่นำเข้าจะไม่ได้ถูก copy ไฟล์ไปด้วย แนะนำให้เลือกเป็นการ Copy เพื่อในการทำงานในกรณีที่ต้องการนำโปรเจ็คของ Pro tools ไปทำยังเครื่องอื่นๆ จะมีไฟล์ Audio ถูก Copy ไปทำงานที่เครื่องอื่นได้ด้วย

เลือก Copy All -> → เลือก Apply SRC (เพื่อทำการ convert sample rate ของไฟล์เสียงกับไฟล์โปรเจ็คให้ตรงกัน) → เลือก Open
ตัวโปรแกรมจะทำการให้เราเลือกพื้นที่ในการจัดเก็บไฟล์เสียงที่ Folder Audio File ให้เรา ทำการคลิกที่ Open
เลือก New Track → เลือก OK
โปรแกรมก็จะนำเข้าไฟล์เสียงเข้ามาในส่วนของการตัดต่อเสียง

เครื่องมือหลักในการตัดต่อพื้นฐาน
Trim tool (F6) ใช้สำหรับการตัดต่อเสียง สามารถยืดหด ไฟล์เสียงที่ต้องการตัดต่อได้ในส่วนหัวและส่วนท้ายของคลิปเสียง
Selector tool (F7) ใช้สำหรับการตัดต่อเสียง สามารถเลือกช่วงเสียงของคลิปในการตัดต่อได้
Grabber tool (F8) ใช้สำหรับจับเลือกคลิปในการย้ายไปยังจุดที่ต้องการ
Smart Tool (รวม 3 เครื่องมือ Trim tool , Selector tool , Grabber tool , ในเครื่องมือตัวเดียว)
โหมด : Slip (การเคลื่อนย้ายเสียงแบบอิสระ)
โหมด : Spot (การเคลื่อนย้ายเสียงวางตามเวลาที่ต้องการ)

โหมด : Shuffle (การเคลื่อนย้ายเสียงแบบต่อชิดกัน)
โหมด : Grid (การเคลื่อนย้ายเสียงแบบเข้าเส้นกริด ตามหมวดการใช้งาน เช่น หมวดดนตรี BarsIBeats แบบเลื่อนทีละ 1 bar หรือ เลื่อนทีละ 1/2 note เป็นต้น)
ผู้เริ่มต้นใช้ Slip เป็นหลัก สลับ Grid เมื่อจัดจังหวะ

บทความนี้มีประโยชน์หรือไม่?
Share
Share Facbook Share Twitter
 

e-Profile RMUTL

เว็บไซต์สำหรับแสดงโปรไฟล์ ผลงาน และข้อมูลวิชาการของบุคลากร

มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา