Blog

แนวทางการถ่ายภาพบุคคลเพื่อจัดทำทำเนียบบุคลากรในกองประชาสัมพันธ์

การถ่ายภาพบุคคลเพื่อจัดทำทำเนียบบุคลากรในกองประชาสัมพันธ์ เป็นการถ่ายภาพที่มีจุดมุ่งหมายเพื่อสร้างภาพลักษณ์ที่ดีและเหมาะสมของบุคลากรในองค์กร ดังนั้นการถ่ายภาพประเภทนี้ไม่เพียงแค่เป็นการบันทึกภาพบุคคล แต่ยังเป็นการสื่อสารภาพลักษณ์และบุคลิกภาพของบุคคลนั้น ๆ ในสายตาของสาธารณชน โดยมีปัจจัยหลายประการที่ควรพิจารณาเพื่อให้การถ่ายภาพบุคคลสำเร็จลุล่วงได้อย่างมีประสิทธิภาพและเหมาะสมกับการใช้งาน


1. การเตรียมตัวก่อนการถ่ายภาพ

การเตรียมตัวของทั้งช่างภาพและบุคคลที่ถ่ายเป็นขั้นตอนสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม โดยช่างภาพควรทำความเข้าใจเกี่ยวกับบุคลิกภาพและบทบาทของบุคคลที่จะถ่ายภาพ เพื่อออกแบบการถ่ายภาพให้เหมาะสม

  • การเลือกสถานที่: ควรเลือกสถานที่ที่เหมาะสมและสอดคล้องกับลักษณะขององค์กร เช่น พื้นที่สำนักงานหรือสถานที่ที่มีความสะอาดและมีแสงธรรมชาติที่ดี
  • การเลือกฉากหลัง (Backdrop): ควรใช้ฉากหลังที่ไม่ทำให้ภาพเบี่ยงเบนความสนใจจากบุคคล โดยเลือกฉากหลังที่เรียบง่ายและมีความเป็นมืออาชีพ
  • การเลือกเสื้อผ้า: บุคลากรที่ถ่ายควรเลือกเสื้อผ้าที่สะอาดและดูดี, การเลือกเสื้อผ้าสีที่เหมาะสม เช่น สีพื้นหรือลวดลายที่ไม่ฉูดฉาดเกินไป เพื่อให้ภาพดูมีความเป็นทางการ
  • การเตรียมลุคของบุคคล: การแต่งหน้าและการจัดทรงผมควรให้เหมาะสมตามบุคลิกภาพและบทบาทของบุคคลในองค์กร



2. เทคนิคการถ่ายภาพ

การถ่ายภาพบุคคลต้องมีเทคนิคที่ช่วยให้ภาพดูดีและสามารถสื่อสารภาพลักษณ์ของบุคคลได้อย่างถูกต้อง

  • การจัดแสง: แสงเป็นปัจจัยสำคัญในการถ่ายภาพบุคคล เนื่องจากการจัดแสงที่ดีจะช่วยให้ผิวหน้าเรียบเนียนและมิติของใบหน้าดูดี การใช้แสงธรรมชาติที่มาจากหน้าต่างหรือแสงไฟที่ไม่แรงเกินไปช่วยให้ได้ภาพที่อ่อนโยนและดูเป็นธรรมชาติ
  • การตั้งตำแหน่งกล้อง (Composition): กล้องควรตั้งในระดับสายตาของบุคคล เพื่อให้ภาพมีความสมดุลและไม่ทำให้มุมมองผิดธรรมชาติ ขณะเดียวกันควรระวังการเบี่ยงเบนของท่าทางหรือมุมที่อาจทำให้บุคคลดูไม่เป็นธรรมชาติ
  • ระยะห่างจากกล้อง (Focal Length): การใช้ระยะโฟกัสที่เหมาะสม เช่น ระยะ 85mm หรือ 50mm สามารถช่วยให้ภาพบุคคลดูคมชัดและมีมิติ โดยการเลือกเลนส์ที่ไม่ทำให้ลักษณะใบหน้าเบี้ยวหรือผิดธรรมชาติ



3. การใช้สีและการตัดภาพ

สีในภาพถ่ายบุคคลควรเลือกใช้ให้เหมาะสมกับความเป็นมืออาชีพ และเพื่อให้บุคคลนั้นดูมีบุคลิกที่เหมาะสมกับองค์กร

  • โทนสี: การใช้โทนสีที่เรียบง่ายและไม่ฉูดฉาดเกินไป เช่น โทนสีขาว, เทา, หรือสีน้ำเงิน เป็นการสร้างภาพลักษณ์ที่เป็นมืออาชีพ
  • การตัดภาพ: การตัดภาพในลักษณะที่เหมาะสม เช่น การตัดให้เห็นแค่ช่วงหน้าและไหล่ จะช่วยให้การถ่ายภาพมีความชัดเจนและไม่วุ่นวายเกินไป


4. การจัดท่าทางและการแสดงออกของบุคคล

การจัดท่าทางของบุคคลที่ถ่ายเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่สำคัญในการถ่ายภาพบุคคลเพื่อใช้ในทำเนียบบุคลากร การยืนหรือการนั่งในท่าที่เหมาะสมจะช่วยให้ภาพดูมีความสมดุล

  • ท่าทาง: การยืนตรงและไม่ห่อไหล่จะช่วยให้บุคคลดูมั่นใจและมีบุคลิกที่ดี การถือท่าทางที่เป็นธรรมชาติและไม่แข็งเกินไปจะทำให้ภาพดูอบอุ่นและเป็นมิตร
  • การแสดงออกทางสีหน้า: การแสดงออกควรเป็นแบบที่ดูจริงใจและมีความสุข การยิ้มเล็กน้อยจะทำให้บุคคลดูเข้าถึงง่ายและน่าเชื่อถือ


5. การปรับแต่งภาพหลังการถ่าย

การปรับแต่งภาพหลังการถ่ายเป็นขั้นตอนที่ช่วยให้ภาพถ่ายดูสมบูรณ์แบบมากขึ้น โดยสามารถปรับแสง, สี, หรือความคมชัดของภาพให้ดูเหมาะสม

  • การปรับแสงและคอนทราสต์: การปรับแสงและคอนทราสต์ให้สมดุลจะทำให้ภาพดูมีมิติและรายละเอียดที่ชัดเจน
  • การลบสิ่งรบกวน: การลบพื้นหลังหรือวัตถุที่ไม่จำเป็นออกจากภาพจะทำให้ภาพดูสะอาดตาและดูเป็นทางการมากขึ้น
  • การรีทัช: การปรับผิวหน้าให้เรียบเนียนหรือการแก้ไขรายละเอียดเล็กน้อยสามารถทำได้ แต่ควรระมัดระวังไม่ให้การรีทัชทำให้ภาพดูไม่เป็นธรรมชาติ


6. การเผยแพร่และการใช้งาน

หลังจากการถ่ายภาพและการปรับแต่งเสร็จสิ้นแล้ว ภาพถ่ายบุคคลจะถูกนำไปใช้งานตามวัตถุประสงค์ เช่น การนำไปใช้ในทำเนียบบุคลากรบนเว็บไซต์ขององค์กร, หนังสือแนะนำองค์กร, หรือโซเชียลมีเดียขององค์กร โดยควรเลือกขนาดและรูปแบบไฟล์ที่เหมาะสมกับสื่อที่จะนำไปใช้



7. เลนส์ที่นิยมใช้สำหรับการถ่ายภาพบุคคล

การเลือกเลนส์สำหรับการถ่ายภาพบุคคลนั้นขึ้นอยู่กับลักษณะของภาพที่ต้องการและระยะห่างจากตัวแบบ โดยเลนส์ที่เหมาะสมในการถ่ายภาพบุคคลมักจะมีคุณสมบัติดังนี้:

เลนส์ Prime Lens (เลนส์คงที่)

  • ระยะโฟกัส 50mm (เลนส์มาตรฐาน): เลนส์ 50mm f/1.8 หรือ f/1.4 เป็นเลนส์ที่ได้รับความนิยมมากสำหรับการถ่ายภาพบุคคล เนื่องจากมีระยะโฟกัสที่เหมาะสมสำหรับการถ่ายภาพบุคคลในระยะกลาง (ประมาณ 1-3 เมตร) ทำให้ภาพดูเป็นธรรมชาติและไม่บิดเบี้ยว มุมมองจะใกล้เคียงกับมุมมองของตามนุษย์ อีกทั้งเลนส์รุ่นนี้มักมีราคาไม่สูงและให้คุณภาพที่ดีเยี่ยม
  • เลนส์ 85mm f/1.4 หรือ f/1.8: เลนส์ระยะ 85mm เป็นเลนส์ที่นิยมสำหรับการถ่ายภาพบุคคลที่ต้องการความสวยงามของ Bokeh หรือการเบลอพื้นหลัง ซึ่งช่วยให้แบบเด่นชัดและพื้นหลังเบลออย่างนุ่มนวล เลนส์ 85mm เหมาะสำหรับการถ่ายภาพแบบพอร์ตเทรตที่ต้องการให้บุคคลเด่นชัดในภาพ ส่วนที่ไม่ใช่แบบจะถูกเบลอออกไปอย่างมีสุนทรียะ
  • เลนส์ 135mm: เป็นเลนส์ที่เหมาะสำหรับการถ่ายภาพบุคคลในระยะไกล โดยไม่ต้องเข้าไปใกล้ตัวแบบมาก ซึ่งช่วยให้สามารถถ่ายภาพบุคคลได้โดยไม่รบกวนหรือทำให้แบบรู้สึกไม่สบายใจ นอกจากนี้ยังช่วยให้ได้พื้นหลังที่เบลออย่างสวยงาม

เลนส์ Zoom Lens

  • 24-70mm f/2.8: เลนส์ซูมระยะกลางที่ให้ความยืดหยุ่นสูงในการถ่ายภาพบุคคล เนื่องจากมีระยะโฟกัสที่หลากหลาย สามารถใช้ถ่ายภาพบุคคลได้ทั้งในระยะใกล้และไกล โดยยังคงสามารถรักษาคุณภาพของภาพและความชัดลึกได้ดีในหลายๆ มุมมอง แต่จะไม่ให้ Bokeh ที่เนียนนุ่มเหมือนเลนส์ Prime
  • 70-200mm f/2.8: เลนส์ซูมที่ให้ความยาวโฟกัสสูง ทำให้สามารถถ่ายภาพบุคคลในระยะไกลได้ เช่น ถ่ายภาพบุคคลในงานอีเว้นท์ที่ต้องการระยะห่างจากแบบ แต่ยังคงได้คุณภาพภาพที่คมชัดและการเบลอพื้นหลังที่สวยงาม

8. ข้อดีและข้อเสียของแต่ละประเภทเลนส์

  • เลนส์ Prime (50mm, 85mm, 135mm):
  • ข้อดี: คมชัดสูง, มี Bokeh ที่เนียนนุ่ม, ความเร็วในการเก็บแสงดี (f/1.8 หรือ f/1.4 ทำให้เหมาะสำหรับการถ่ายในที่แสงน้อย)
  • ข้อเสีย: ไม่สามารถปรับระยะโฟกัสได้ (ต้องขยับกล้องหรือผู้ถ่ายเพื่อเปลี่ยนระยะ)
  • เลนส์ Zoom (24-70mm, 70-200mm):
  • ข้อดี: ความยืดหยุ่นสูง สามารถปรับระยะโฟกัสได้ตามสถานการณ์ ไม่ต้องขยับตัวแบบ
  • ข้อเสีย: คุณภาพของภาพและ Bokeh อาจไม่ดีเท่ากับเลนส์ Prime เพราะเลนส์ซูมมีรูรับแสงแคบกว่าหรือเลนส์ซูมบางตัวอาจให้ความคมชัดที่ต่ำกว่า

9. เทคนิคการถ่ายภาพบุคคลด้วยเลนส์ที่เลือก

  • ใช้รูรับแสงกว้าง (f/1.4 – f/2.8): การใช้รูรับแสงกว้างช่วยให้การถ่ายภาพมีพื้นหลังที่เบลอ (Bokeh) ซึ่งทำให้แบบเด่นชัดและช่วยสร้างความรู้สึกที่เป็นมืออาชีพและอบอุ่น
  • ระยะห่างจากตัวแบบ: เมื่อใช้เลนส์ที่มีระยะโฟกัสยาว (เช่น 85mm หรือ 135mm) ควรยืนห่างจากตัวแบบพอสมควรเพื่อให้ไม่เกิดการบิดเบือนของใบหน้า ขณะเดียวกัน เลนส์ที่มีระยะโฟกัสสั้นกว่า (เช่น 50mm) จะทำให้มุมมองแบบธรรมชาติและดูอบอุ่น
  • การเลือกมุมกล้อง: การถ่ายในมุมที่เหมาะสม เช่น การตั้งกล้องที่ระดับสายตาของบุคคลจะทำให้ภาพดูสมจริงและเป็นธรรมชาติ
  • การใช้แสง: เลนส์ที่มีรูรับแสงกว้างช่วยให้ถ่ายในสภาวะแสงน้อยได้ดีขึ้น แต่อย่าลืมจัดแสงให้ดีเพื่อเพิ่มมิติและลดเงาที่ไม่ต้องการบนใบหน้า

10. การเลือกเลนส์ให้เหมาะกับลักษณะการใช้งาน

  • หากต้องการถ่ายภาพบุคคลที่ดูเป็นธรรมชาติในสภาพแสงปกติ เลนส์ 50mm f/1.8 หรือ 85mm f/1.8 จะเป็นตัวเลือกที่ดี
  • สำหรับภาพบุคคลที่ต้องการให้พื้นหลังเบลอหรือ "Bokeh" สวยๆ เลนส์ 85mm f/1.4 หรือ 135mm f/2 จะให้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
  • หากต้องการความยืดหยุ่นในการถ่ายภาพในหลายมุมมอง เลนส์ซูม 24-70mm f/2.8 เป็นตัวเลือกที่เหมาะสมที่สุด


11. เทคนิคการจัดแสงในการถ่ายภาพบุคคล

การจัดแสงและการโพสต์ท่าในการถ่ายภาพบุคคลมีบทบาทสำคัญในการสร้างภาพที่ดูดีและมีความเป็นมืออาชีพ ทั้งสองส่วนนี้ต้องได้รับการพิจารณาอย่างรอบคอบเพื่อให้ได้ภาพที่มีความสมดุลและสวยงาม ซึ่งจะช่วยให้บุคคลในภาพดูโดดเด่นและสะท้อนบุคลิกที่ดีในทำเนียบบุคลากรขององค์กร

การจัดแสงที่ดีจะช่วยให้ภาพบุคคลมีมิติ ดูสดใส และลดเงาไม่พึงประสงค์จากใบหน้า ต่อไปนี้คือเทคนิคการจัดแสงที่ใช้บ่อยในการถ่ายภาพบุคคล

11.1 แสงหลัก (Key Light)

แสงหลักคือแหล่งแสงที่สำคัญที่สุดในการถ่ายภาพบุคคล ซึ่งจะทำให้แบบโดดเด่นและคมชัด การวางตำแหน่งของแสงหลักจะมีผลอย่างมากต่ออารมณ์และมิติของภาพ:

  • แสงจากด้านข้าง: การวางแสงหลักที่ด้านข้างของแบบ (ประมาณ 45 องศา) จะทำให้ใบหน้ามีเงาที่มิติและดูลึก
  • แสงจากด้านหน้า (Front Lighting): การวางแสงตรงหน้าจะช่วยให้ใบหน้าไม่มีเงาและดูนุ่มนวล เหมาะสำหรับการถ่ายภาพบุคคลที่ต้องการให้ใบหน้าเรียบเนียน
  • แสงจากด้านบน (Top Lighting): การใช้แสงจากด้านบนจะทำให้มุมมองของใบหน้าดูคมชัด แต่ต้องระวังการสร้างเงาใต้คางหรือลำคอ ซึ่งอาจทำให้ดูไม่สวยงาม

11.2 แสงเติม (Fill Light)

แสงเติมช่วยลดเงาที่เกิดจากแสงหลัก โดยมักจะใช้แสงที่อ่อนกว่าแสงหลัก และวางในตำแหน่งที่ตรงข้ามกับแสงหลัก เพื่อทำให้ใบหน้าดูสมดุลและนุ่มนวล

  • แสงเติมจากข้างล่างหรือด้านข้าง: แสงเติมจะช่วยลดเงาใต้ตาหรือใต้คาง และทำให้ภาพดูนุ่มนวลมากขึ้น
  • ใช้รีเฟล็กเตอร์: การใช้รีเฟล็กเตอร์สีขาวช่วยสะท้อนแสงไปยังแบบเพื่อเพิ่มแสงเติมให้ใบหน้า ดูไม่มืดจนเกินไป

11.4 แสงพื้นหลัง (Back Light)

การใช้แสงพื้นหลังสามารถเพิ่มมิติให้กับภาพบุคคล โดยการวางแสงจากด้านหลังของแบบ จะทำให้ได้เอฟเฟ็กต์แสงที่สร้างขอบสว่างรอบตัวแบบ ซึ่งช่วยให้แบบดูโดดเด่นจากพื้นหลัง

  • แสงจากด้านหลัง (Backlighting): การใช้แสงจากด้านหลังจะทำให้เกิดการระบายแสงที่สวยงามรอบๆ แบบ เป็นการสร้าง “ฮาโล” หรือขอบสว่างรอบตัวแบบ
  • แสงพอร์เทรต (Rim Light): ใช้แสงจากข้างหลังเพื่อสร้างขอบสว่างที่ทำให้แบบดูเด่นขึ้นและแยกจากพื้นหลังได้ชัดเจน

11.5 แสงธรรมชาติ (Natural Light)

การใช้แสงธรรมชาติ เช่น แสงจากหน้าต่าง จะให้ความรู้สึกอบอุ่นและเป็นธรรมชาติ แสงธรรมชาติมักจะนุ่มนวลและไม่ทำให้เกิดเงาแข็งจนเกินไป

  • การใช้แสงจากหน้าต่าง: การใช้แสงที่มาจากหน้าต่างในช่วงเวลาที่แสงไม่จัด (เช้า-เย็น) จะให้ภาพที่อ่อนโยนและดูมีมิติ
  • การใช้ไฟในห้องที่มีแสงน้อย: หากต้องการแสงที่นุ่มนวล ควรเลือกแสงที่ไม่รุนแรงเกินไป เพื่อไม่ให้แสงแข็งหรือสร้างเงาเกินจำเป็น


12. เทคนิคการโพสต์ท่าในการถ่ายภาพบุคคล

การโพสต์ท่าเป็นสิ่งที่ช่วยเพิ่มความเป็นธรรมชาติและความมั่นใจให้กับบุคคลที่ถ่ายภาพ การจัดท่าทางที่ดีสามารถทำให้ภาพถ่ายดูมีมิติและไม่แข็งเกินไป นี่คือเคล็ดลับในการโพสต์ท่าที่มีประสิทธิภาพ:

12.1 ท่าทางการยืน

  • ยืนตรงและผ่อนคลาย: การยืนตรงโดยไม่ยืดหลังจนเกินไปจะทำให้บุคคลดูมั่นคงและเป็นธรรมชาติ ผ่อนคลายไหล่และยืนให้สะโพกมีมุมที่เหมาะสม
  • หันตัวไปข้างหนึ่ง: การหันตัวไปด้านข้างเล็กน้อยและให้หัวหันไปที่กล้องจะช่วยให้รูปร่างดูสมส่วนและลดความกว้างของร่างกายได้
  • เท้าหนึ่งข้างไปข้างหน้า: การเลื่อนเท้าหนึ่งข้างไปข้างหน้าเล็กน้อยทำให้ท่าทางดูเป็นธรรมชาติมากขึ้นและไม่แข็งเกินไป
  • วางมืออย่างผ่อนคลาย: หลีกเลี่ยงการวางมือแข็งๆ ให้ใช้มือข้างหนึ่งพาดไว้ที่เอวหรือปล่อยมือไว้ข้างตัวเพื่อให้ดูผ่อนคลายและไม่เกร็ง

12.2 ท่านั่ง

  • นั่งตรงแต่ไม่เกร็ง: การนั่งในท่าที่ตรงและผ่อนคลายจะช่วยให้บุคคลดูมีบุคลิกภาพที่ดีและมั่นใจ
  • ไม่ย่อเข่ามากเกินไป: การนั่งแล้วกางขาเล็กน้อยจะทำให้ท่าทางดูสบายและเป็นธรรมชาติ
  • มือวางบนขา หรือข้ามมือบนเข่า: มือสามารถวางอยู่บนขาเพื่อเพิ่มความเป็นธรรมชาติ หรือให้ข้ามมือไปบนเข่าจะทำให้ท่าทางดูสง่างาม

12.3 สีหน้าและการแสดงอารมณ์

  • ยิ้มเล็กน้อย: การยิ้มเล็กน้อยช่วยให้บุคคลดูเป็นมิตรและเข้าถึงง่าย ควรหลีกเลี่ยงการยิ้มกว้างเกินไปหรือลักษณะการแสดงออกที่ดูแข็ง
  • สีหน้าไม่เกร็ง: พยายามทำให้ใบหน้าดูผ่อนคลาย และหลีกเลี่ยงการขมวดคิ้วหรือแสดงออกที่ดูเครียดเกินไป
  • การตั้งสายตา: ให้บุคคลมองตรงไปที่กล้องหรือลงไปที่พื้นเพื่อสร้างอารมณ์ในภาพ การมองไปในทิศทางอื่นๆ สามารถทำให้ภาพดูน่าสนใจมากขึ้นได้

12.4 การเคลื่อนไหว

  • ไม่ต้องยืนนิ่งเกินไป: การทำท่าทางเล็กน้อย เช่น การขยับหัวหรือการยืนในท่าที่ไม่สมบูรณ์แบบ จะทำให้ภาพดูมีชีวิตชีวาและไม่แข็งเกินไป
  • การเคลื่อนไหวมือหรือการโค้งตัวเล็กน้อย: การเคลื่อนไหวเล็กน้อย เช่น การยื่นมือไปข้างหน้าเบาๆ หรือการโค้งตัวเล็กน้อย สามารถทำให้ภาพดูน่าสนใจและไม่เป็นทางการเกินไป


บทความนี้มีประโยชน์หรือไม่? (1)
Share
Share Facbook Share Twitter
 

e-Profile RMUTL

เว็บไซต์สำหรับแสดงโปรไฟล์ ผลงาน และข้อมูลวิชาการของบุคลากร

มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา